บทความต่อไปนี้เป็นกระทู้ของสภาวิศวกร ซึ่งผมนำมาเสนอ ณ ที่แห่งนี้ ก็เพื่ออยากให้เพื่อน ๆ ผู้อ่าน ได้คิดและตระหนักถึงแก่นแท้ของสิ่งที่เกิด จริง ๆ แล้วผมก็คิดอยากจะไปสอบ กว. เช่นกัน แต่พอมาเจอกระทู้นี้ ก็เลยเกิดเห็นทางสว่างของชีวิตมากขึ้น ไปดูกันครับ..
ขอเรียนถามสมาชิกสภาวิศวกรทุกท่าน เกี่ยวกับบทบาทของสภาวิศวกรในยุคปัจจุบัน ครับ
ผมอยากทราบความคิดเห็นของสมาชิกทุกท่านครับว่า บทบาทของสภาวิศวกรในปัจจุบันนี้ได้ให้อะไรกับพวกเราบ้างครับ เท่าที่ผมเห็นคือ การเก็บเงินแล้วเอาเงินไปใช้เพื่อตนเอง การออกใบ กว. เพื่อมากีดกันการประกอบอาชีพกันเองแล้วก็ทำให้พวกเราหลงในใบ กว. ภาคี สามัญ วุฒิวิศวกร ยกเลิกระบบใบ กว. ได้ก็จะดีนะครับ สภาวิศวกรควรจะไปควบคุมการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาให้ได้มาตรฐานจะดีกว่าไหมครับบัณฑิตจบมาจะได้มีคุณภาพสามารถประกอบอาชีพโดยสุจริตตามที่ได้เหล่าเรียนมา ไม่ใช่มามัวแต่หมกมุ่นกับต้องเอาใบ กว. ผมมองว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ได้สร้างสรรค์ สภามาควบคุมที่ปลายเหตุ ผมสงสารประเทศไทยที่ต้องมีพวกคุณในสภาวิศวกรที่ไม่คิดถึงประเทศชาติเลย สรุปสภาวิศวกรควรไปควบคุมที่แหล่งผลิตวิศวกรก็คือมหาวิทยาลัยให้ได้มาตรฐานจะดีกว่านะครับ ไม่ต้องมีใบ กว. หรอก ช่วยกันทำงาน ตามที่เหล่าเรียนมา ไม่ต้องมากีดกันกัน และบ้าอำนาจกัน
เห็นด้วยคร๊าบ อาจารย์
ขอตอบในนามของสภาผู้แทนหมู่บ้านละกัน
ทางสภาคงทำอะไรไม่ได้มาก
เพราะว่าเรามีสโลแกนประจำใจอยู่ว่า
\"เอ่อ เรื่องนี้ ทางสภาฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง\"
หรือว่า \"เอ่อ..สภาฯไม่มีอำนาจ คงต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูและเอง\"
*********แล้วจะมีสภาฯไว้ทำ ค...ว...x อะไรฟะ***********
-เห็นด้วยกับท่าน วุฒิวิศวกร แก่แล้ว มากเลยครับ แต่ผมขอเพิ่มเติมว่า การเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา เขาก็เข้าไปยุ่งทุกเรื่อง เช่น เรื่องอาจารย์ผู้สอน หัวหน้าภาควืชา หลักสูตร เป็นต้น ทำให้ระบบการบริหารมีปัญหา ระบบการจัดหลักสูตรเหมือนกัน ถูกล็อคไว้ มหาวิทยาลัยทำหลักสูตรให้หลากหลายเฉพาะไม่ได้ ต้องทำหลักสูตรเพื่อเอา กว. เท่นั้น น่าปวดหัวมากเลย แล้วแบบนี้ประเทศชาติจะพัฒนาการศึกษาไปได้อย่างไรครับผม
--ถามว่าถ้าเรียนผ่านหลักสูครที่ผ่านการรับรองแต่ไม่ตั้งใจเรียนไม่มีความรู้จะได้มาตรฐานไหมครับ
-วิธีที่ผมขอเสนอ คือ จัดสอบแล้วทำแบบทดสอบให้สามารถวัดความรู้ได้จริง แล้วให้ผู้ที่ทำข้อสอบได้ คือ ผู้มีความรู้ ภ้าผ่านการทดสอบก็ยอมรับได้
ใบ กว. เป็นสิ่งสำคัญที่แสดงถึงความสามารถที่วิศวกรควรจะมีในการออกแบบ และเป็นการให้คำสัญญาว่าจะเป็นผู้มีจรรยาบรรณ หากมีกฏหมายกำหนดการลงโทษที่ค่อนข้างหนักก็อาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีใบ กว. ซึ่งในอดีตก็มีตัวอย่างในอารยธรรมหนึ่งซึ่งหากอาคารพังทลายเป็นเหตุให้ผู้อยู่อาศัยเสียชีวิต ผู้สร้างหรือผู้ออกแบบอาคารนั้นก็จะถูกประหารชีวิตทันที
ผมสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ มีประสบการณ์ทำงานจากต่างประเทศ มีใบวิศวกรจากต่างประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. 2537 แต่การทำเรื่องขอใบ กว. ต่อสภาวิศวกรฯนั้นทำได้ยากมาก ทั้งจะต้องไปหาหลักสูตรที่เรียนมา 17 ปีที่แล้วและแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย แม้สถาบันการศึกษานั้นจะมีชื่อเสียงและถูกรับรองโดย กพ. ขณะที่ประสบการณ์ที่ผ่านมาถูกนับให้เป็นศูนย์เพราะเริ่มนับได้ก็ต่อเมื่อได้ใบ กว. ระดับภาคีจากสภาฯ แล้วเท่านั้น อีกทั้งเมื่อมีใบ กว. แล้วก็หาซื้อประกันวิชาชีพในประเทศไทยไม่ได้ ไม่เหมือนในต่างประเทศ
การที่มีการแยกประเภทใบ กว. โดยมี วุฒิ แยกออกไปจากสามัญนั้นก็ไม่เหมาะสม เพราะทำให้เกิดเรื่องผลประโยชน์ และความซำซ้อน ในต่างประเทศที่เป็นผู้คิดวิธีคำนวณการออกแบบ ทางวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้นำมาใช้ ก็ไม่มีการแยกประเภทอย่างนี้ มีเพียง ภาคี ซึ่งมีเมื่อเริ่มเก็บประสบการณ์หลังสำเร็จการศึกษา และอีกประเภทก็คือ วิศวกร ซึ่งมีทั้งการศึกษาและประสบการณ์ทำงานตามที่ได้กำหนด
ผมจึงเลือกที่จะไม่สมัครทำใบ กว. ของสภาวิศวกรรมแห่งประเทศไทย จนกว่าจะปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตราฐานของประเทศต่างๆที่เจริญแล้ว พร้อมทั้งมีการออกกฏหมายที่เป็นธรรมไม่ซำซ้อน และเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคลพวกหนึ่งพวกใด และมีกรมธรรม์ประกันภัยเนื่องจารการประกอบวิชาชีพ และหวังว่าทั้งสามอย่างนี้น่าจะเกิดขึ้นภายใน 20 ปี
การสอบทุกระดับของสภาฯ เป็นเพียงมายากลระดับประเทศเท่านั้น
๑.ข้อสอบทุกระดับที่จัดสอบมีรั่วไหลออกมาเต็มไปหมด หาได้ทั่วไปแม้ในเวปแห่งนี้
๒.การรับรองผลงานระดับสามัญ วุฒิ ก็ไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน มีหลายมาตรฐาน แล้วแต่เส้นใครใหญ่ เล็กขนาดไหน? แต่ที่แน่ๆคณะกรรมการไม่เคยออกไปดูและสัมผัสเลยว่าจริงๆแล้วผลงานเป็นอย่างไร? ได้แต่นั่งเทียนวาดภาพเอาจากรายงาน และลายเซ็นคนรับรองเท่านั้น
๓.ข้อสอบที่นำมาให้ทำกันก็เป็นข้อสอบเก่าที่ขึ้ราเป็นปลาร้า น้ำเน่าหนอนเต็มไปหมดแล้ว
๔.การสอบสัมภาษณ์ก็เป็นการสอบที่เป็นเพียงพิธีเท่านั้น ไม่ศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด เพราะขอเพียงให้เข้าสอบเท่านั้น จะผ่านโดยสะดวก
๕.สภาฯอันทรงเกียรติและเป็นผู้ควบคุมคุณภาพ มาตรฐานวิศวกร กลับถูกขู่ ก้าวร้าว ด่าด้วยถ้อยคำหยาบช้า เสียจนอุจจาระขึ้นไปอยู่บนสมองแล้ว จนยอมลดมาตรฐาน คุณภาพที่เคยมีและปฏิบัติกันมาช้านาน
จนน่าจะเป็นการอับอายมากกว่านะ ที่จะบอกบุคคลอื่นว่าสอบผ่านระบบการสอบต่างๆของสภาฯ เพราะคนในวงการฯเขารู้กันว่า เป็นมายากลดีๆนี่เอง แม้แต่เจ้าตัวคนเข้าสอบเองก็เถอะ รู้ดีแก่ใจเองว่าตนเองสอบผ่านมาได้อย่างไร?
ที่จริงผมมองว่า กว มันก็มีไว้จะได้รับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ แต่ว่า มีบางคนที่สมัยเรียนอาจจะไม่ได้เก่ง เรียนผ่านๆแต่ จบ แต่ไม่ผ่านเกณฑ์การขอ กว แต่ทำงานเป็นที่มีฝีมือล่ะ คนเราเรียนเก่งไม่ได้เก่งเรื่องงานเสมอไปหรอก สภาแม่งก็แค่เอาปลายเหตุมาแก้ สุดท้ายก็เป็นเรื่องตัง ใครมีเงินแม่งก็ทำได้หมดแหละประเทศไทย
ในเมื่อไม่เห็นด้วย แล้วจะเอาวุฒิวิศวกรไปเพื่ออะไรครับ ยังไงก็ต้องมีไว้ครับ เกิดออกแบบแล้วตึกถล่ม ไฟไหม้ แล้วใครจะรับผิดชอบล่ะ
แต่ที่ไม่ค่อยดี คือการให้ข้อมูลข่าวสารของทางสภาวิศวกร หรือแม้แต่มาตรฐาน ตอนนี้ มีความขัดแย้งด้านมาตรฐานกันเยอะมาก วิศวกรไม่เข้าใจ หรือหาเอกสารอ้างอิงกันไม่ได้ ได้แต่บอกว่า เคยทำกันมา ในฐานะที่ผมเป็นคนรุ่นใหม่ ผมว่ามีระดับขั้นเป็นสิ่งดี แต่สิ่งที่ควรปรับปรุงคือ ระบบมาตรฐานบ้านเรามากกว่า ถ้ามีความรู้มากกว่านี้ ผมก็จะขอวุฒิวิศวกร เพื่อมาประดับภูมิความรู้ที่มีอยู่
เรียนวุฒิวิศวกร อาชีพทางด้านกฎหมาย แพทย์ บัญชี หรือสอบขั้นทางราชการ เข้าก็มีสอบเหมือนกันครับ และต้องมีผลงานทางด้านปฏิบัติด้วย ถ้าเป็นไปได้อยากให้ท่านเสนอนายกสภาวิศวกร ควรลดค่าธรรมเนียมต่างๆลงบ้าง ราคาต่างๆต้องเห็นชอบจากทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่มาจดทะเบียนประกอบวิชาชีพคิดแพง ทั้งจดทะเบียนแบบบุคคลและนิติบุคคล เพื่อผลประโยชน์โดยรวมของวิศวกรอาชีพเดียวกัน เห็นบ่นกันตลอด
ยำมันสักทีครับพวกคนที่ทำงานในสภาวิศวกร คนเดือดร้อนเพราะมันมาเยอะแล้ว ทำอะไรไร้สาระ เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน ทำเป็นพูดเรื่องจรรยาบรรณ แล้วตัวเองมีจรรยาบรรณหรือปล่าว ครับท่าน
ที่มา http://www.coe.or.th/e_engineers/webboard_topic.php?wtype=2&wNo=45967
ขอตอบในนามของสภาผู้แทนหมู่บ้านละกัน
ทางสภาคงทำอะไรไม่ได้มาก
เพราะว่าเรามีสโลแกนประจำใจอยู่ว่า
\"เอ่อ เรื่องนี้ ทางสภาฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง\"
หรือว่า \"เอ่อ..สภาฯไม่มีอำนาจ คงต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูและเอง\"
*********แล้วจะมีสภาฯไว้ทำ ค...ว...x อะไรฟะ***********
-เห็นด้วยกับท่าน วุฒิวิศวกร แก่แล้ว มากเลยครับ แต่ผมขอเพิ่มเติมว่า การเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา เขาก็เข้าไปยุ่งทุกเรื่อง เช่น เรื่องอาจารย์ผู้สอน หัวหน้าภาควืชา หลักสูตร เป็นต้น ทำให้ระบบการบริหารมีปัญหา ระบบการจัดหลักสูตรเหมือนกัน ถูกล็อคไว้ มหาวิทยาลัยทำหลักสูตรให้หลากหลายเฉพาะไม่ได้ ต้องทำหลักสูตรเพื่อเอา กว. เท่นั้น น่าปวดหัวมากเลย แล้วแบบนี้ประเทศชาติจะพัฒนาการศึกษาไปได้อย่างไรครับผม
--ถามว่าถ้าเรียนผ่านหลักสูครที่ผ่านการรับรองแต่ไม่ตั้งใจเรียนไม่มีความรู้จะได้มาตรฐานไหมครับ
-วิธีที่ผมขอเสนอ คือ จัดสอบแล้วทำแบบทดสอบให้สามารถวัดความรู้ได้จริง แล้วให้ผู้ที่ทำข้อสอบได้ คือ ผู้มีความรู้ ภ้าผ่านการทดสอบก็ยอมรับได้
ใบ กว. เป็นสิ่งสำคัญที่แสดงถึงความสามารถที่วิศวกรควรจะมีในการออกแบบ และเป็นการให้คำสัญญาว่าจะเป็นผู้มีจรรยาบรรณ หากมีกฏหมายกำหนดการลงโทษที่ค่อนข้างหนักก็อาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีใบ กว. ซึ่งในอดีตก็มีตัวอย่างในอารยธรรมหนึ่งซึ่งหากอาคารพังทลายเป็นเหตุให้ผู้อยู่อาศัยเสียชีวิต ผู้สร้างหรือผู้ออกแบบอาคารนั้นก็จะถูกประหารชีวิตทันที
ผมสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ มีประสบการณ์ทำงานจากต่างประเทศ มีใบวิศวกรจากต่างประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. 2537 แต่การทำเรื่องขอใบ กว. ต่อสภาวิศวกรฯนั้นทำได้ยากมาก ทั้งจะต้องไปหาหลักสูตรที่เรียนมา 17 ปีที่แล้วและแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย แม้สถาบันการศึกษานั้นจะมีชื่อเสียงและถูกรับรองโดย กพ. ขณะที่ประสบการณ์ที่ผ่านมาถูกนับให้เป็นศูนย์เพราะเริ่มนับได้ก็ต่อเมื่อได้ใบ กว. ระดับภาคีจากสภาฯ แล้วเท่านั้น อีกทั้งเมื่อมีใบ กว. แล้วก็หาซื้อประกันวิชาชีพในประเทศไทยไม่ได้ ไม่เหมือนในต่างประเทศ
การที่มีการแยกประเภทใบ กว. โดยมี วุฒิ แยกออกไปจากสามัญนั้นก็ไม่เหมาะสม เพราะทำให้เกิดเรื่องผลประโยชน์ และความซำซ้อน ในต่างประเทศที่เป็นผู้คิดวิธีคำนวณการออกแบบ ทางวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้นำมาใช้ ก็ไม่มีการแยกประเภทอย่างนี้ มีเพียง ภาคี ซึ่งมีเมื่อเริ่มเก็บประสบการณ์หลังสำเร็จการศึกษา และอีกประเภทก็คือ วิศวกร ซึ่งมีทั้งการศึกษาและประสบการณ์ทำงานตามที่ได้กำหนด
ผมจึงเลือกที่จะไม่สมัครทำใบ กว. ของสภาวิศวกรรมแห่งประเทศไทย จนกว่าจะปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตราฐานของประเทศต่างๆที่เจริญแล้ว พร้อมทั้งมีการออกกฏหมายที่เป็นธรรมไม่ซำซ้อน และเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคลพวกหนึ่งพวกใด และมีกรมธรรม์ประกันภัยเนื่องจารการประกอบวิชาชีพ และหวังว่าทั้งสามอย่างนี้น่าจะเกิดขึ้นภายใน 20 ปี
การสอบทุกระดับของสภาฯ เป็นเพียงมายากลระดับประเทศเท่านั้น
๑.ข้อสอบทุกระดับที่จัดสอบมีรั่วไหลออกมาเต็มไปหมด หาได้ทั่วไปแม้ในเวปแห่งนี้
๒.การรับรองผลงานระดับสามัญ วุฒิ ก็ไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน มีหลายมาตรฐาน แล้วแต่เส้นใครใหญ่ เล็กขนาดไหน? แต่ที่แน่ๆคณะกรรมการไม่เคยออกไปดูและสัมผัสเลยว่าจริงๆแล้วผลงานเป็นอย่างไร? ได้แต่นั่งเทียนวาดภาพเอาจากรายงาน และลายเซ็นคนรับรองเท่านั้น
๓.ข้อสอบที่นำมาให้ทำกันก็เป็นข้อสอบเก่าที่ขึ้ราเป็นปลาร้า น้ำเน่าหนอนเต็มไปหมดแล้ว
๔.การสอบสัมภาษณ์ก็เป็นการสอบที่เป็นเพียงพิธีเท่านั้น ไม่ศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด เพราะขอเพียงให้เข้าสอบเท่านั้น จะผ่านโดยสะดวก
๕.สภาฯอันทรงเกียรติและเป็นผู้ควบคุมคุณภาพ มาตรฐานวิศวกร กลับถูกขู่ ก้าวร้าว ด่าด้วยถ้อยคำหยาบช้า เสียจนอุจจาระขึ้นไปอยู่บนสมองแล้ว จนยอมลดมาตรฐาน คุณภาพที่เคยมีและปฏิบัติกันมาช้านาน
จนน่าจะเป็นการอับอายมากกว่านะ ที่จะบอกบุคคลอื่นว่าสอบผ่านระบบการสอบต่างๆของสภาฯ เพราะคนในวงการฯเขารู้กันว่า เป็นมายากลดีๆนี่เอง แม้แต่เจ้าตัวคนเข้าสอบเองก็เถอะ รู้ดีแก่ใจเองว่าตนเองสอบผ่านมาได้อย่างไร?
ที่จริงผมมองว่า กว มันก็มีไว้จะได้รับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ แต่ว่า มีบางคนที่สมัยเรียนอาจจะไม่ได้เก่ง เรียนผ่านๆแต่ จบ แต่ไม่ผ่านเกณฑ์การขอ กว แต่ทำงานเป็นที่มีฝีมือล่ะ คนเราเรียนเก่งไม่ได้เก่งเรื่องงานเสมอไปหรอก สภาแม่งก็แค่เอาปลายเหตุมาแก้ สุดท้ายก็เป็นเรื่องตัง ใครมีเงินแม่งก็ทำได้หมดแหละประเทศไทย
ในเมื่อไม่เห็นด้วย แล้วจะเอาวุฒิวิศวกรไปเพื่ออะไรครับ ยังไงก็ต้องมีไว้ครับ เกิดออกแบบแล้วตึกถล่ม ไฟไหม้ แล้วใครจะรับผิดชอบล่ะ
แต่ที่ไม่ค่อยดี คือการให้ข้อมูลข่าวสารของทางสภาวิศวกร หรือแม้แต่มาตรฐาน ตอนนี้ มีความขัดแย้งด้านมาตรฐานกันเยอะมาก วิศวกรไม่เข้าใจ หรือหาเอกสารอ้างอิงกันไม่ได้ ได้แต่บอกว่า เคยทำกันมา ในฐานะที่ผมเป็นคนรุ่นใหม่ ผมว่ามีระดับขั้นเป็นสิ่งดี แต่สิ่งที่ควรปรับปรุงคือ ระบบมาตรฐานบ้านเรามากกว่า ถ้ามีความรู้มากกว่านี้ ผมก็จะขอวุฒิวิศวกร เพื่อมาประดับภูมิความรู้ที่มีอยู่
เรียนวุฒิวิศวกร อาชีพทางด้านกฎหมาย แพทย์ บัญชี หรือสอบขั้นทางราชการ เข้าก็มีสอบเหมือนกันครับ และต้องมีผลงานทางด้านปฏิบัติด้วย ถ้าเป็นไปได้อยากให้ท่านเสนอนายกสภาวิศวกร ควรลดค่าธรรมเนียมต่างๆลงบ้าง ราคาต่างๆต้องเห็นชอบจากทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่มาจดทะเบียนประกอบวิชาชีพคิดแพง ทั้งจดทะเบียนแบบบุคคลและนิติบุคคล เพื่อผลประโยชน์โดยรวมของวิศวกรอาชีพเดียวกัน เห็นบ่นกันตลอด
ยำมันสักทีครับพวกคนที่ทำงานในสภาวิศวกร คนเดือดร้อนเพราะมันมาเยอะแล้ว ทำอะไรไร้สาระ เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน ทำเป็นพูดเรื่องจรรยาบรรณ แล้วตัวเองมีจรรยาบรรณหรือปล่าว ครับท่าน
ที่มา http://www.coe.or.th/e_engineers/webboard_topic.php?wtype=2&wNo=45967
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น