ที่ประชุม ก.ค.ศ. เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้า รับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย และปฏิทินสอบแข่งขันประจำปี 2555...
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ประชุมเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย และปฏิทินสอบแข่งขันประจำปี 2555 โดยกำหนดรายละเอียด อาทิ ให้ผู้ดำเนินการสอบแข่งขันตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการสอบได้ตามความเหมาะสม ให้ส่วนราชการดำเนินการออกข้อสอบ ตรวจกระดาษคำตอบ และประมวลผลการสอบ รวมทั้งกำหนดนโยบาย หรือแนวทางในการบริหารจัดการการสอบแข่งขัน และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ดำเนินการสอบ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบปฏิทินการสอบแข่งขันตำแหน่งครูผู้ช่วยดังนี้
- ประกาศรับสมัคร วันที่ 1-7 มิ.ย.
- รับสมัครสอบแข่งขัน 8-14 มิ.ย.
- สอบแข่งขัน วันที่ 23-24 มิ.ย. และ
- ประกาศผลการสอบแข่งขัน ภายในวันที่ 30 มิ.ย.
สำหรับสอบแข่งขันจะมี 2 วัน โดยวันแรกสอบภาค ก. ความรอบรู้และความสามารถทั่วไป ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู และความถนัดและเจตคติต่อวิชาชีพครู 200 คะแนน และวันที่ 2 สอบภาค ข. ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งวิชาเอก 200 คะแนน
ซึ่งการสอบภาค ก. และ ข. จะเป็นการสอบข้อเขียนเพื่อสอดรับกับนโยบายของ ก.ค.ศ.ที่เน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ลดการใช้ดุลพินิจของกรรมการ ส่วนการกำหนดใช้บัญชีของผู้ที่สอบแข่งขันได้นั้น คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้งในส่วนราชการสามารถเรียกใช้บัญชีดังกล่าวได้.
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยและปฏิทินสอบแข่งขันฯประจำปี 2555 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ให้ผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน ตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการสอบได้ตามความเหมาะสม ให้ส่วนราชการดำเนินการออกข้อสอบ ตรวจกระดาษคำตอบและประมวลผลการสอบ รวมทั้งกำหนดนโยบายหรือแนวทางในการบริหารจัดการในการดำเนินการสอบแข่งขัน ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน ส่วนหลักฐานการสมัคร ทั้งในส่วนของปริญญาบัตร ประกาศนียบัตร ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตามที่ระบุไว้ในประกาศรับสมัครสอบนั้น จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจก่อนวันปิดรับสมัคร
รัฐมนตรีว่าการ ศธ. กล่าวต่อว่า สำหรับปฏิทินการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย มีดังนี้ ประกาศรับสมัครระหว่างวันที่ 1-7 มิถุนายน รับสมัครระหว่างวันที่ 8-14 มิถุนายน สอบวันที่ 23-24 มิถุนายน และประกาศผลการสอบแข่งขันภายในวันที่ 30 มิถุนายน ทั้งนี้สำหรับการสอบแข่งขันจะมี 2 วัน โดยวันแรก สอบภาค ก ความรอบรู้และความสามารถทั่วไป ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู และความถนัดและเจตคติต่อวิชาชีพครู 200 คะแนน และวันที่สอง สอบภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งวิชาเอก 200 คะแนน ซึ่งการสอบภาค ก และ ข จะเป็นการสอบข้อเขียนแบบปรนัยเพื่อสอดรับกับนโยบายที่เน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่วนการสอบภาค ค ที่จะเป็นการสอบสัมภาษณ์นั้น จะไม่มีในการสอบครั้งนี้ เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของกรรมการ สำหรับการกำหนดใช้บัญชีของผู้ที่สอบแข่งขันได้นั้น คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ.ตั้งในส่วนราชการสามารถเรียกใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อบรรจุแต่งตั้งได้ตามที่กำหนด
"ก.ค.ศ.ยังเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จังหวัด/กรุงเทพมหานคร และ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร โดยกำหนดให้แบ่งการสรรหามาจาก 2 กลุ่ม คือกลุ่มทั่วไป และกลุ่มประสบการณ์ หากมีคุณสมบัติทั้ง 2 กลุ่ม ให้สมัครเพียงกลุ่มเดียว และให้ประกาศจำนวนตำแหน่งปัจจุบันและจำนวนตำแหน่งที่คาดว่าจะว่างจากการเกษียณอายุราชการใน 2 ปีงบประมาณ โดยกำหนดสัดส่วนจำนวนตำแหน่งว่างที่จะใช้บรรจุและแต่งตั้งทั้งสองกลุ่มให้มีสัดส่วนเท่ากัน 50:50" นายสุชาติกล่าว และว่า สำหรับหลักสูตรการประเมิน กำหนดให้มีการประเมินโดยการสอบข้อเขียนแบบปรนัยทั้ง 2 กลุ่ม ยกเว้นกลุ่มประสบการณ์ นอกจากการสอบข้อเขียนแล้ว ให้ประเมินประวัติและผลงานด้วย ส่วนการออกข้อสอบ การตรวจกระดาษคำตอบและการประมวลผลการสอบ ให้สำนักงานปลัด ศธ.เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งผู้ที่ผ่านเกณฑ์การตัดสิน ต้องได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ทั้งนี้ในการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหา ให้ขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาเท่ากับจำนวนตำแหน่งว่างและจำนวนตำแหน่งที่คาดว่าจะว่างจากการเกษียณอายุราชการใน 2 ปีงบประมาณตามประกาศรับสมัคร แยกเป็นบัญชีกลุ่มทั่วไป และบัญชีกลุ่มประสบการณ์ โดยการขึ้นบัญชีจะมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ประกาศขึ้นบัญชี และหากมีการรับสมัครครั้งใหม่และประกาศขึ้นบัญชี ผู้ผ่านการสรรหาครั้งใหม่เมื่อใดให้ยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาในทุกบัญชี อย่างไรก็ตามสำหรับปฏิทินการรับสมัครนั้น สำนักงาน กศน. จะเป็นผู้กำหนดต่อไป
ที่มา http://www.perdsorbtoday.com/news_detail.php?news=3405&from=%CA%BE%B0.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น