จากเด็กคนหนึ่งในสมัยเรียน ม.ต้น ม.ปลาย ที่เรียนภาษาไทยไม่เคยได้เกินเกรด 1 เลย แต่อาจจะมีบ้างที่ได้เกรด 2 3 แต่ไม่บ่อยนัก ซึ่งตอนนั้นการเขียนเรียงความก็ยังเขียนไม่เป็น รู้แค่เพียงว่าต้องมีสิ่งเหล่านี้ เช่น บทนำ เนื้อหา สรุป
ส่วนการใช้ภาษาในหลาย ๆ ระดับ ก็เรียนพอจะเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่ที่รู้ก็น่าจะมี ภาษาพูด และ ภาษาเขียน เป็นต้น ภาษาเขียนจะมีความสำคัญในการเรียนในระดับสูง เช่น ปวส. ป.ตรี ป.โท ป.เอก และตลอดจนการทำงานในชีวิตประจำวันที่ต้องทำหนังสือติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ หรือนำเสนอการรายงานผลการทำงานของหน่วยงานของตนเอง
พอมาถึง ณ จุดนี้ ตอนนี้ สิ่งที่มีอยู่ในหัวใจ ก็คือ การใช้ภาษาทางการ ภาษาราชการ ที่ผมชอบที่สุด ถึงแม้บางครั้งผมต้องเขียนบทความลงเว็บไซต์โดยใช้ภาษาผสม เพียงเพื่อให้การอ่านน่าสนใจ น่าติดตาม และเป็นเอกลักษณ์ของผม ก็ตาม... แต่ ณ วันนี้เป้นวันที่ผมภูมิใจในตนเองอีกครั้งกับสิ่งใหม่ ๆ ที่เราทดลองมานาน นั่นก็คือ การได้รับการตอบรับจากอาจารย์ผู้ตรวจสอบรายงานการวิจัย ว่า การใช้ภาษาของผมได้ระดับดีมาก ซึ่งเป็นรายวิชาสัมมนาของ ป.โท ที่กำลังศึกษาในขณะนี้
ถึงแม้ว่าการเรียนรายวิชานี้จะไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่สิ่งที่ยากก็คือการใช้ภาษาในการเขียนของแต่ละคน มักจะใช้ภาษาพูดเข้ามาผสมกันในประโยค จึงทำให้คนในวงการวิจัยไม่ค่อยปลื้มกันนัก เนื่องจากการทำงานวิจัยเป็นงานในระดับวิชาการอยู่แล้ว ภาษาที่ใช้ต้องเป็นภาษาเขียนเท่านั้น อันนี้ผมผ่านไปได้ด้วยดีครับ เพราะผมฝึกใช้ภาษากับเว็บไซต์ของผมแห่งนี้อยู่ประจำ และผมอย่างนี้ ตลอดไป ผู้อ่านท่านที่กำลังเข้าสู่วงการนี้ หรือกำลังหาที่ปรึกษา ก็สามารถเขียนมาปรึกษากันได้ตลอดเวลาเลยนะครับ ผมยินดีเป็นคู่หูดูแลการใช้ภาษาของท่านได้ตลอดไปครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น